1.Dmitry Sklyarov
เป็นหนุ่มแฮกเกอร์มาดเซอชาวรัสเซีย ที่เขาถูกจับกุมในปี 2001 จากการแฮกข้อมูลต่างๆใน Las Vegas,Nevada เขายังทำการแฮกระบบของ Adobe และก็แฮกข้อมูลลิขสิทธิ์ต่างๆทางด้านซอฟแวร์ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุม เขาก็เคยทำงานให้กับ ElcomSoft ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำทางด้านการปลดล็อค Password และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เขาก็ได้ถูกจำคุกไป แล้วต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวไปที่เขายืนยันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก
2.Kevin Poulsen
หรือรู้จักกันในชื่อของ Dark Dante เป็นแฮกเกอร์ที่ผู้คนให้ความนับถือ แล้วต่อมาเมื่อเขาถูกจับได้ที่ไปแฮกเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สถานีวิทยุ เขาก็ยังสามารถหลบหนีออกมาได้ และโชว์ทักษะการแฮคขั้นเทพโดยไปแฮกเบอร์โทรศัพท์ของรายการ Unsolved Mysterious ล่มมาแล้ว และก็สามารถควบคุมโทรศัพท์ได้อย่างถาวร แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับกุมในปี 1991 จำคุก 51 เดือน ปัจจุบันเขาทำงานทางด้านเว็บไซด์
3.Mark Abene
เป็นอีกแฮกเกอร์คนหนึ่งที่มีคนให้ความเคารพศรัทธา รู้จักกันในฐานะ Robin Hood ในโลกไซเบอร์ ที่จัดโดยนิตยสาร Time เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เป็นคนที่สนใจได้ในการสำรวจเสาะหาข้อมูลต่างๆ ระบบปฎิบัติการต่างๆ และระบบการสื่อสาร แล้วก็เข้าองค์กรแฮกเกอร์อย่าง Legion Of Doom (LOD) และกลุ่ม Masters Of Deception (MOD) โดยเขาจะเน้นการแฮกข้อมูลลับของสหรัฐอเมริกา และสุดท้ายก็ถูกจับกุมได้ ปัจจุบันเขาก็ทำงานที่ปรึกษาอิสระในเรื่องระบบการเชื่อมต่อหลายองค์กร
4.Onel De Guzman
เป็นนักศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้ดรอปเรียนในปีสุดท้ายหลังจากที่ได้ปฎิเสธไม่รับวิทยานิพนธ์ที่เขาได้แฮกมาจากอินเตอร์เน็ตมา หลังจากนั้นเขาและเพื่อนของเขาก็ได้สร้างไวรัสสุดอันตรายที่ชื่อ ILOVEYOU ที่ได้ทำการโจมตีระบบปฎิบัติการทั่วโลก ทำให้อีเมล์หลายพันล้านเสียหายไปทั้งโลก ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเอาผิดเกี่ยวกับแฮกเกอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ เพราะว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกกฎหมายนี้ เขาและเพื่อนของเขาจึงไม่มีความผิดอะไร
5.Gary Mckinnon
เป็นชาวสก็อตแลนด์ที่ได้ทำการแฮกข้อมูลนาซ่าและกองทัพของประเทศอเมริกาในช่วงปี 2001-2002 เว็บไซด์กองทัพเขาได้ทำการแฮกแล้วเขียน “ระบบความปลอดภัยของห่วยวะ” และก็ท้าทายต่อด้วยการแฮกระบบอาวุธของประเทศอเมริกาอีก อย่างไรก็ตามเขาก็ทำการโจมตีเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทางรัฐบาลและเรื่องที่ทางองค์กรต่างๆได้ขจัดพลังงานอื่นๆแล้วก็นำน้ำมันเข้ามาแทนที่ พอถูกจับได้ เขาก็ได้รับการปล่อยตัวจากการวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค Asperger Syndrome ที่มาจากความบกพร่องทางด้านการพัฒนาร่างกาย
6.Adrian Lamo
เป็นนักแฮกที่มีความเกี่ยวข้องกับจอมแฉหลายๆคนอย่าง Bradley Manning ที่ได้ทำการเปิดโปงเรื่องปฎิบัติการลับทางทหารและทาง Wikileaks ถือเป็นแฮกเกอร์ที่ช่ำชองมาตั้งแต่เด็ฏๆ เขาได้ทำการเสาะหาข้อมูลต่างๆบนโลกไซเบอร์ แล้วต่อมาก็ได้ทำการแฮกเว็บไซด์ Microsoft , Yahoo! ,The New York Times และอื่นๆ เขามีการปรับปรุงทักษะตัวเองทางด้านการแฮกอยู่ตลอด จึงยากที่จะรู้ว่าเขาแฮกในรูปแบบไหน ซึ่งเขาก็ได้เป็นกระบอกเสียงหนึ่งในการเปิดโปงข้อมูลลับๆด้วยเช่นกัน
7.Robert Tappan Morris
เป็นอาจารย์สอนทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และสอนทางด้านคอมพิวเตอร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าได้สร้างไวรัสที่มีชื่อว่า Morris Worm เป็นไวรัสที่ไม่ได้สร้างความเสียหาย แต่เป็นการวัดขนาดของอินเตอรเน็ต แต่ก็ทำให้ระบบต่างๆอ่อนแอลง และไวรัสก็เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น เขาก็สารภาพในปี 1986 ถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี รับใช้สาธารณะ 400 ชั่วโมงและถูกปรับอีก 10000 ดอลลาร์
8.Kevin Mitnick
เป็นที่ปรึกษาทางด้านระบบการเชื่อมต่อและเป็นผู้เขียนหนังสือ The Art Of Deception เริ่มฉายแววตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยการแฮกบริษัทต่างๆและซอฟแวร์ที่มีลิขสิทธิ์ เขาจึงถูกจำคุกเป็นเวลา 12 เดือน กับอีก 3 ปี ก็ได้รับการปล่อย แต่เขาก็ได้ลี้ภัยไปยังเมืองอื่นๆเป็นเวลาสั้นๆ แม้ว่าจะหลบหนีจากน้ำมือตำรวจได้ แต่เขาก็ยังทำการแฮกต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น IBM,Nokia,Mororola และอื่นๆ แต่สุดท้ายก็ถูกทาง FBI จับกุมที่หอพัก และก็ติดคุก 5 ปีในปี 2000
9.Albert Gonzalez
เริ่มสนใจเรื่องการแฮกตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และก็เริ่มชำนาญในเรื่องการขจัดไวรัสในช่วงอายุ 9 ขวบ ตอนที่เขาเรียนอยู่ เขาก็ได้ทำการแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลประเทศอินเดีย ซึ่งทำให้เขาถูกห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลา 6 เดือน ต่อมาเขาก็มาในนามแฝงที่ชื่อว่า ShadowCrew เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่รู้จักกันดีที่ได้แฮกการ์ด ATM เป็นล้านๆ และกลายเป็นผู้ก่อการร้ายทางด้านระบบการ์ดและบริษัทอื่นๆ ปัจจุบันเขาถูกจำคุกและก็จะได้รับการปล่อยตัวในปี 2025
10.Jonathan James
รู้จักกันในนามว่า C0marade เป็นเด็กอายุ 15 ปีที่ได้แฮกข้อมูลเกี่ยวกับความมั่งคงของประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็ถูกจับกุมในฐานะอาชญากรทางด้านไซเบอร์ เป็นเด็กอายุน้อยคนแรกที่ถูกจำคุกเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ ในปี 2007 เขาก็ได้ทำการแฮกข้อมูลและรายละเอียดต่างๆของผู้ใช้บริการ Wi-Fi เป็นล้านๆคน อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ปฎิเสธเกี่ยวกับการแฮกครั้งนี้ ในปี 2008 เขาก็ได้ฆ่าตัวตายด้วยการเอาปืนยิงตัวเอง มีจดหมายก่อนตายที่เขาเขียนไว้ว่า เขาสูญเสียความศรัทธากับระบบยุติธรรมและมีความกลัวว่า เขาจะกลายเป็นแพะรับบาปจากเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตด้วยวัย 24 ปี
11.Stephen Wozniak
พูดถึง Apple Computer ใครๆก็อาจจะนึกถึง Steve Jobs ชายหนุ่มหัวแอบล้านซึ่งหลายๆคนรอคอย KeyNote ของเค้าในงาน MacWorld Conference ทุกปี แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วถ้า Apple Computer ขาดเค้าคนนี้ไปล่ะก็ มันจะไม่มีวันนี้แน่นอน เพราะ Steve Wozniak คือผู้่ร่วมก่อตั้ง Apple Computer ครับ การเป็น Hacker ช่วงแรกของเค้าอยู่ที่ เค้าได้ไปอ่านบทความเรื่องการเจาะระบบโทรศัพท์ในหนังสือ Esquire เข้า หลังจากที่คุยกับ Steve Jobs พวกเขาก็ได้คิดค้น BlueBox เครื่องเจาะระบบโทรศัพท์ที่ทำให้คุณสามารถ โทรทางไกลได้ฟรีๆ (เอาเข้าไป) มีครั้งหนึ่ง Steve Wozniak ได้แอบใช้เครื่อง BlueBox โทรหาพระสันตปาปา โดยปลอมตัวว่าเป็น Henry Kissinger รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐในตอนนั้น แสบจริงๆ สำหรับช่วงแรกของการก่อตั้ง Apple Computer. Wozniak ได้ขายเครื่องคิดเลขแสนแพงของเขา และ Jobs ได้ขายรถแวนของเขา เพื่อเป็นทุนในการก่อตั้ง Apple Computer ครับ และสุดทเครื่อง Apple I ก็วางตลาด และทั้งคู่ได้ขายเครื่องนี้ในราคาเครื่องละ 666.66$ (เลขซาตานชัดๆ)
12.Tim Berners-Lee
ต้องขอบอกว่า ถ้าไม่มีอีตานี่โลกเราจะไม่มีคำว่า World Wide Web ครับ เพราะเค้าคนนี้คือ คนที่ คิดค้น www ขึ้นบนโลก. Tim Berners-Lee เป็นลูกของสองนักคณิตศาสตร์ระดับโลก Convey และ ?Mary Berners-Lee ซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ Manchester Mark 1 เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆของโลก ในปี 2532 Tim Berners-Lee ทำงานเป็น FreeLance อยู่ที่ CERN (ศูนย์วิจัยเรื่องนิวเคลียร์ของยุโรป) ซึ่งเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปเขาได้คิดค้นระบบข้อความหลายมิติ (Hypertext) ขึ้นมา ซึ่งเมื่อมันผนวกเข้ากับ TCP และ DNS ล่ะก็ มันจะเป็นความสุดยอดของ HyperText แน่นอน และหลังจากนั้นมันจึงกลายเป็น ?World Wide Web ครับ เมื่อปี 2548 เขาได้รับรางวัล 1 ในร้อยบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อคนทั้งโลกมากที่สุด และในปี 2550 Tim Berners-Lee ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้า จากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบทที่สอง เป็นการส่วนพระองค์ ทำให้ตอนนี้เค้ากลายเป็น Sir Tim Berners-Lee ไปแล้วครับ ผลงานการ Hack ของ Tim Berners-Lee ไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ว่า เรื่องนี้ก็ทำให้เค้าโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย Oxford ล่ะครับ ปล. เว็บไซต์แรกของโลกคือ http://info.cern.ch สร้างขึ้นโดย Tim Berners-Lee นี่แหละครับ
13.Linus Torvalds
บิดาผู้ให้กำเนิด Linux ระบบปฏิบัติการ Unix ที่คนนิยมกันมากที่สุดในโลกขณะนี้ ในปี 1991 ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เฮลซิงกิ เขาได้สร้าง linux kernel ขึ้นจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Minix ขึ้น หลังจากนั้น เขาก็รวบรวมสมัครพรรคพวกมาช่วยกันเขียน และช่วยกันพัฒนาต่อกันทางอินเทอร์เน็ต โดยที่เขาเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบ และแจกจ่ายงานไปยังโปรแกรมเมอร์ต่างๆทั่วโลก รวมถึงแจกจ่ายให้คนช่วยกันเอาไปใช้ฟรีๆอีกด้วย จุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ทุกคนที่มาร่วมทำนั้น ทุกคนยินดีช่วยโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด และมีเงื่อนไขต่อด้วยอีกว่า เมื่องานเสร็จแล้วจะต้องเผยแพร่ตัว Source Code แก่สาธารณะโดยไม่คิดมูลค่าเช่นเดียวกันครับ ทุกวันนี้ Linux Torvalds ทำงานอยู่ที่บริษัท Transmeta บริษัทที่ทำหน้าที่ออกแบบ CPU และยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้นำของบรรดาผู้ใช้งานและพัฒนา Linux ทั้งโลกครับ ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือ Times Magazine ได้ยกให้เค้าเป็น หนึ่งคนในหนังสือชื่อ 60 Years of Hero
14.Richard Stallman
ผู้ริเริ่มโครงการ GNU (อ่านว่า กนู นะครับ) และมูลนิธิซอฟท์แวร์เสรี รวมไปถึงผู้ริเริ่มแนวคิดเรื่อง Copyleft (ฮ่า) และเป็นผู้ร่างสัญญาอนุญาติให้ใช้ได้ทั่วไป และต่อในภายหลัง สัญญานี้ได้กลายเป็น บรรทัดฐานซอฟท์แวร์เสรีจำนวนมาก ความเป็นแฮกเกอร์ของเค้าโผล่มาตอนที่เค้าทำงานอยู่ที่ MIT ในฐานะของ Staff Computer ทุกครั้งที่มีระบบอะไรใหม่ๆติดตั้งเข้าไปและมีรหัสผ่านกำกับอยู่ Richard Stallman จะหาทางแฮกและปลดรหัสผ่านออกทุกครั้ง ยังครับยังไม่พอ พอแฮกระบบเสร็จก็แฮก Printer ต่อเพื่อพิมพ์ข้อความบอกชาวบ้านว่าระบบไหนอยู่ที่ไหน ปลดรหัสผ่านอะไรไปแล้วบ้าง แสบจริงๆ
15.Tsutomu Shimomura
สุดยอด White-Hat สายเลือดเอเชีย Tsutomu Shimomura ได้รับชื่อเสียงอย่างโด่งดัง ในฐานะที่ร่วมมือกับ John Markoff ในการช่วยเหลือ FBI ไล่จับสุดยอดแฮกเกอร์ของโลกในยุคนั้น นั่นก็คือ Kevin Mitnick นั่นเอง Tsutumu ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่ SDSC (San Diego Supercomputer Center) ซึ่งจริงๆแล้วก็โดนอีตา Kevin เข้ามาแฮกเอาโปรแกรมและเมล์สำคัญๆไป ดังนั้นด้วยคาวมแค้นเขาจึงร่วมมือกับ FBI ไล่จับ Kevin Mitnick ซึ่งต่อมาเมื่อเขาจับได้ เขาก็เลยเขียนหนังสือชื่อ Takedown เป็นเรื่องราวของการไล่จับ Kevin Mitnick ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง TakeDown ด้วย
16.Anonymous
Anonymous หรือ “กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนาม” เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่จัดอยู่ในประเภท Hackivist (แฮกเพื่ออุดมการณ์) ที่เรียกได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของวงการเลยก็ว่าได้ มีประวัติผลงานมากมาย เช่น ถล่ม Facebook ถล่มเว็บไซต์เกาหลีเหนือ ฯลฯ (เคยกำราบ Lizard Squard จนหง่อมาแล้วด้วย) และ สมาชิกในกลุ่มก็เป็นเหล่าผู้เชี่ยวชาญในด้าน Network Security โดยเฉพาะ ล่าสุดก็ได้อัดคลิปประกาศสงครามโลกไซเบอร์กับทางกลุ่ม ISIS กลุ่มก่อการร้ายที่กำลังดังอยู่ขณะนี้